ในอดีต ภาพของ “ความปลอดภัย” มักถูกจำกัดไว้แค่การทำตามกฎระเบียบเพื่อหลีกเลี่ยงบทลงโทษ แต่วันนี้ อุตสาหกรรมกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่เปลี่ยนแปลงเร็ว ทำให้มุมมองต่อความปลอดภัยต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
การ “เป็นผู้นำด้านความปลอดภัย” (Safety Leadership) คืออะไร?
ภาพที่ 1 : ผู้นำความปลอดภัย
การเป็นผู้นำด้านความปลอดภัยไปไกลกว่าการปฏิบัติตามกฎหมาย คือการที่องค์กรมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยที่ฝังรากลึกในทุกระดับขององค์กร ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงจนถึงพนักงานปฏิบัติงาน โดยมองว่าความปลอดภัยเป็น “คุณค่าหลัก” (Core Value) และเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางธุรกิจ
อุตสาหกรรมยุคใหม่ต้องการ “ผู้นำด้านความปลอดภัย” เพราะ..
ภาพที่ 2 : อุตสาหกรรมยุคใหม่
1. ความเป็นระบบของเทคโนโลยีและกระบวนการ: อุตสาหกรรมยุคใหม่มีการนำเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น
- AI, IoT, หุ่นยนต์
- ระบบอัตโนมัติมาใช้
ซึ่งเพิ่มความเป็นระบบและความท้าทายด้านความปลอดภัย การแค่ปฏิบัติตามกฎหมายพื้นฐานอาจไม่เพียงพอที่จะรับมือกับความเสี่ยงใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น
2. ความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย:
- พนักงาน: ต้องการสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย และบริษัทที่ใส่ใจในสวัสดิภาพของตน
- ลูกค้า: เลือกใช้สินค้าและบริการจากบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
- นักลงทุน: ให้ความสำคัญกับบริษัทที่มีการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดี รวมถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและ ESG
- สาธารณชน: ติดตามและประเมินภาพลักษณ์ขององค์กรจากเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย
3. ผลกระทบทางธุรกิจที่ร้ายแรงกว่าเดิม: อุบัติเหตุในยุคนี้อาจมีผลกระทบที่รุนแรงกว่าในอดีต ทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของพนักงาน, ค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟู และที่สำคัญที่สุดคือความเสียหายต่อชื่อเสียง
ภาพที่ 3 : สร้างวัฒนธรรมองค์กร
4. การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็ง: การเป็นผู้นำด้านความปลอดภัยสร้างวัฒนธรรมที่พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมและรับผิดชอบร่วมกัน ซึ่งนำไปสู่การทำงานเป็นทีมที่ดีขึ้น และความผูกพันกับองค์กร
5. ประสิทธิภาพและผลผลิตที่เพิ่มขึ้น: เมื่อพนักงานรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจ พวกเขาจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพโดยปราศจากความกังวล ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพของผลผลิตและประสิทธิภาพโดยรวมขององค์กร
6. ความได้เปรียบในการแข่งขัน: องค์กรที่เป็นผู้นำด้านความปลอดภัยสามารถดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถสูง, สร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้า, และเข้าถึงตลาดหรือโครงการที่ต้องการมาตรฐานความปลอดภัยที่สูงกว่าได้
บทบาทของ “ระบบบริหารความปลอดภัย” ในการเป็นผู้นำ
ภาพที่ 4 : ระบบบริหารความปลอดภัย
ระบบบริหารความปลอดภัยที่เป็นมาตรฐาน (เช่น ISO 45001) และมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย (เช่น Jorpor Plus ที่เป็นดิจิทัล) จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้องค์กรก้าวข้ามจากการ “แค่ปฏิบัติตาม” ไปสู่การ “เป็นผู้นำ” โดย:
- สร้างกรอบการทำงานที่เป็นระบบ: ช่วยให้องค์กรสามารถวางแผน, ดำเนินการ, ตรวจสอบ, และปรับปรุงมาตรการความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
- ส่งเสริมการวิเคราะห์เชิงรุก: ระบบจะช่วยให้สามารถระบุและประเมินความเสี่ยงได้ตั้งแต่เนิ่นๆ แทนที่จะรอให้เกิดอุบัติเหตุ
- เปิดโอกาสให้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ: ระบบดิจิทัลช่วยให้การจัดการข้อมูล การรายงาน และการสื่อสารรวดเร็วและแม่นยำขึ้น ทำให้การตัดสินใจด้านความปลอดภัยมีประสิทธิภาพ
- สร้างการมีส่วนร่วมของพนักงาน: ระบบที่ดีจะเปิดช่องทางให้พนักงานมีส่วนร่วมในการทำงาน สร้างความสัมพันธ์และความรับผิดชอบต่องาน
- วัดผลและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง: การมีข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนช่วยให้องค์กรสามารถวัดผลลัพธ์ของมาตรการความปลอดภัย และนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพ
อุตสาหกรรมยุคใหม่ไม่สามารถอยู่รอดได้ด้วยการแค่ “ปฏิบัติตาม” กฎระเบียบด้านความปลอดภัยแบบเดิมๆ อีกต่อไป การ “เป็นผู้นำด้านความปลอดภัย” คือการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่สร้างคุณค่าให้กับองค์กรในทุกมิติ ทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความรับผิดชอบต่อสังคม และการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
Jorpor Plus อีกหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนวัฒนธรรมความปลอดภัยยุคดิจิทัลนี้ให้สำเร็จได้ มีทดลองให้ใช้ฟรีแล้ว กดคลิก ได้เลย
สนใจทดลองใช้ระบบ!!
คุณชัญญา เพชรมณีโชติ (แนน)
chunya@factorium.tech
061-5469615
คุณนรีพร ใสสม (ส้มโอ)
Nareeporn@factorium.tech
065-9647198
Website: https://www.jorporplus.com/
Facebook: https://www.facebook.com/JorPorPlus
Line Official : https://lin.ee/dOulra8
Youtube: https://www.youtube.com/playlist?list=PL0b92T8M8rKX1jrpbfpBgozl6Dk3y-nu8