เทคนิคการสร้าง "Awareness ด้านความปลอดภัย" ให้พนักงานตระหนัก

วัฒนธรรมความปลอดภัย คือหัวใจสำคัญในโลกการทำงานยุคใหม่ ไม่ใช่แค่กฎ แต่คือจิตสำนึกของพนักงานทุกคน การสร้าง “Awareness” ให้พนักงาน “อิน” และตระหนักอย่างแท้จริง เพื่อลดอุบัติเหตุ สร้างสภาพแวดล้อมที่ดี และเพิ่มประสิทธิภาพ บทความนี้เป็นแนวทางที่ช่วยให้พนักงานของคุณไม่เพียงแค่ “รู้” แต่ “เข้าใจ” และ “ปฏิบัติ” เพื่อความปลอดภัยของตนเองและเพื่อนร่วมงาน

ทำไม “Awareness” จึงสำคัญกว่าแค่ “Knowledge”?

Knowledge (ความรู้) : คือการรับรู้ข้อมูล กฎ ระเบียบ หรือขั้นตอนต่างๆ เช่น รู้ว่าต้องสวม PPE ชนิดใด
Awareness (ความตระหนัก) : คือการเข้าใจถึงความเสี่ยง ผลกระทบ และความสำคัญของการปฏิบัติตาม เพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย รวมถึงความสามารถในการสังเกตการณ์สิ่งผิดปกติรอบตัว และการลงมือปฏิบัติจริง

การสร้าง Awareness จึงเป็นการผลักดันให้เกิดพฤติกรรมความปลอดภัยอย่างยั่งยืน

เทคนิคและกลยุทธ์สร้าง Awareness ให้พนักงาน “อิน” และตระหนักจริงจัง

ภาพที่ 1 : ผู้นำต้องเป็นแบบอย่างในการสร้าง วัฒนธรรมความปลอดภัย

1. ผู้นำต้องเป็นแบบอย่าง (Leadership by Example) : ความมุ่งมั่นจากผู้นำคือหัวใจสำคัญ ผู้บริหารและหัวหน้างานต้องแสดงความใส่ใจในความปลอดภัยอย่างแท้จริง ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด และให้การสนับสนุนทรัพยากรที่จำเป็น

แนวทางปฏิบัติ : ผู้บริหารเข้าร่วมการอบรม, เดินตรวจงาน, ให้รางวัลพฤติกรรมปลอดภัย, สื่อสารนโยบายความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ

ภาพที่ 2 : การสื่อสารที่เข้าถึงง่าย

2. การสื่อสารที่หลากหลายและเข้าถึงง่าย (Diverse & Accessible Communication) : หลีกเลี่ยงการสื่อสารแบบทางเดียวและน่าเบื่อ ใช้ช่องทางที่หลากหลายเพื่อให้ข้อมูลความปลอดภัยเข้าถึงพนักงานทุกระดับ ทุกพื้นที่การทำงาน

แนวทางปฏิบัติ :

สื่อสิ่งพิมพ์ : โปสเตอร์, แผ่นพับ, คู่มือความปลอดภัย (กระชับ, ภาพประกอบชัดเจน)
สื่อดิจิทัล : วิดีโอสั้น, อินโฟกราฟิก, E-learning, Podcast
การประชุม/อบรม : จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ, Town Hall Meeting
ป้ายเตือน : ติดตั้งในจุดเสี่ยงพร้อมคำเตือนที่เข้าใจง่าย

ภาพที่ 3 : การมีส่วนร่วม

3. สร้างความมีส่วนร่วม (Employee Engagement) : เมื่อพนักงานได้มีส่วนร่วม ได้แสดงความคิดเห็นและมีความรับผิดชอบต่อความปลอดภัยมากขึ้น

แนวทางปฏิบัติ :

คณะกรรมการความปลอดภัย : ส่งเสริมบทบาทของตัวแทนพนักงาน
โครงการเสนอแนะ (Suggestion Box) : เปิดโอกาสให้พนักงานเสนอแนะแนวทางปรับปรุง
ส่งเสริมให้รายงาน “Near Miss”: เพื่อนำมาวิเคราะห์และป้องกัน
กิจกรรมส่งเสริมความปลอดภัย : จัดประกวด, เล่นเกม, จัดสัปดาห์ความปลอดภัย

ภาพที่ 4 : การฝึกอบรม

4. การฝึกอบรมที่น่าสนใจและตรงประเด็น (Engaging & Relevant Training) : การอบรมไม่ใช่แค่การบรรยาย แต่ต้องเน้นการปฏิบัติจริง การจำลองสถานการณ์ และกรณีศึกษาที่เกี่ยวข้องกับงานของพนักงาน

แนวทางปฏิบัติ :

ใช้เทคนิค Gamification, VR/AR, หรือ Case Study จริง
เน้นทักษะที่จำเป็น เช่น การปฐมพยาบาล, การดับเพลิง
จัดอบรมเฉพาะงาน (Job Specific Training)

ภาพที่ 5 : ให้รางวัล สร้างแรงจูงใจ

5. ระบบให้รางวัลและแรงจูงใจ (Recognition & Incentives) : การชื่นชมและให้รางวัลแก่พฤติกรรมความปลอดภัยที่ดี ช่วยเสริมสร้างพฤติกรรมเหล่านั้น

แนวทางปฏิบัติ :

รางวัลพนักงานดีเด่นด้านความปลอดภัย
การกล่าวชมเชยในที่ประชุม
การจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองเมื่อไม่มีอุบัติเหตุ
การให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ แทนการลงโทษเพียงอย่างเดียว

ภาพที่ 6 : เทคโนโลยียกระดับ

6. ใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับความตระหนัก (Leveraging Technology for Awareness) : เทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยให้การจัดการข้อมูลความปลอดภัยมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเข้าถึงพนักงานได้ง่ายขึ้น

แนวทางปฏิบัติ :

ระบบบริหารจัดการความปลอดภัย EHS (Environment, Health, Safety)
แอปพลิเคชันมือถือสำหรับรายงานเหตุการณ์

อีกหนึ่งเทคโนโลยี Jorpor Plus และบทบาทสำคัญ

ภาพที่ 7 : Jorpor Plus ร่วมสร้าง วัฒนธรรมความปลอดภัย

ระบบจัดการใบอนุญาตเข้าทำงาน (EWS)

เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย : พนักงานสามารถเข้าถึงขั้นตอนการทำงานที่ปลอดภัย, JSA/JEA หรือข้อมูลอื่นๆ ได้ทันทีผ่านระบบออนไลน์ของ Jorpor Plus บนอุปกรณ์ต่างๆ ก่อนขอ/เริ่มงาน
การแจ้งเตือนอัตโนมัติ : Jorpor Plus สามารถแจ้งเตือนได้โดยตรงในระบบ เมื่อมีการเปิดใบงาน
ความโปร่งใสและการตรวจสอบย้อนหลัง : ข้อมูลการอนุมัติ, ผู้รับผิดชอบ, เงื่อนไขการทำงาน, และการลงนามดิจิทัลทั้งหมดถูกบันทึกไว้ในระบบ ทำให้เกิดความโปร่งใสและง่ายต่อการตรวจสอบเมื่อเกิดเหตุการณ์
ลดความยุ่งยาก : เมื่อกระบวนการขอใบอนุญาตง่ายขึ้น พนักงานก็มีแนวโน้มที่จะปฏิบัติตามมากขึ้น ไม่รู้สึกว่าเป็นภาระ ซึ่งส่งเสริมการสร้าง Awareness ทางอ้อม

การสร้าง Awareness ด้านความปลอดภัยให้พนักงาน “อิน” และตระหนักจริงจัง เป็นผลมาจากการวางแผนที่ดี การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ การมีส่วนร่วมของพนักงาน และการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เมื่อพนักงานทุกคนมีความเข้าใจ ตระหนักถึงความเสี่ยง และปฏิบัติตามแนวทางความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด องค์กรของคุณก็จะก้าวไปสู่เป้าหมาย “อุบัติเหตุเป็นศูนย์” ได้อย่างแท้จริง และ Jorpor Plus จะเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนวัฒนธรรมความปลอดภัยยุคดิจิทัลนี้ให้สำเร็จได้ มีทดลองให้ใช้ฟรีแล้ว กดคลิก ได้เลย