Near Miss Report มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการบริหารจัดการความปลอดภัยในเชิงรุก ในแง่ของการ ป้องกัน และ การเรียนรู้ นี่คือเหตุผลหลักว่าทำไมการรายงานเหตุการณ์เกือบเกิดอุบัติเหตุ จึงเป็นหัวใจของวัฒนธรรมความปลอดภัยที่เข้มแข็ง
1. “สัญญาณเตือนล่วงหน้า” ที่ไม่มีต้นทุน

ภาพที่ 1 : อุบัติเหตุ กับเหตุการณ์เกือบเกิดอุบัติเหตุ ต่างกันยังไง
- อุบัติเหตุจริง: คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและก่อให้เกิดความเสียหายแล้ว (การบาดเจ็บ, ทรัพย์สินเสียหาย, เวลาสูญเสีย) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดแบบ ปฏิกิริยา (Reactive)
- Near Miss: เป็นเหตุการณ์ที่มีปัจจัยเสี่ยงทุกอย่างเหมือนอุบัติเหตุจริง แต่มีการแก้ไขทันท่วงที ทำให้ไม่เกิดความเสียหาย เป็นตัวชี้วัดแบบ เชิงรุก (Proactive)
2. ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุซ้ำอย่างมีประสิทธิภาพ

ภาพที่ 2 : วิเคราะห์สาเหตุ
- การวิเคราะห์หาสาเหตุรากเหง้า: สาเหตุของเหตุการณ์เกือบเกิดอุบัติเหตุ และอุบัติเหตุจริงมักตรงกัน การวิเคราะห์และแก้ไขที่รากเหง้าอย่างจริงจัง จึงช่วยกำจัดความเสี่ยงร้ายแรงได้ก่อนเกิดเหตุ

ภาพที่ 3 : พีระมิด
- พีระมิดความปลอดภัย: พีระมิดนี้ถูกออกแบบขึ้นเพื่ออธิบายให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่าง เหตุการณ์เกือบเกิดอุบัติเหตุ อุบัติเหตุทรัพย์สินเสียหาย อุบัติเหตุที่บาดเจ็บเล็กน้อย ไปจนถึงการบาดเจ็บรุนแรงและการเสียชีวิต โดยชี้ให้เห็นว่าทุก “เหตุเล็กๆ” หากไม่ถูกจัดการ จะสะสมและนำไปสู่ “เหตุใหญ่” ได้ในที่สุด
3. สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยเชิงรุก

ภาพที่ 4 : สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย
- ความตื่นตัวของพนักงาน: การกระตุ้นให้พนักงานรายงานเหตุการณ์เกือบเกิดอุบัติเหตุ ทำให้พนักงานต้อง ใส่ใจ และ ตื่นตัว ต่อสภาพการณ์ที่ไม่ปลอดภัยและพฤติกรรมเสี่ยงรอบตัวอยู่เสมอ
- ส่งเสริมการสื่อสาร: เมื่อพนักงานรู้ว่าการรายงานNear Miss ได้รับคำชมหรือการยกย่อง จะทำให้พวกเขากล้าเปิดเผยปัญหา ทำให้องค์กรได้รับข้อมูลสำคัญที่ซ่อนอยู่
4. ข้อมูลมีจำนวนมากกว่าและหลากหลาย
- ความถี่สูง: เหตุการณ์เกือบเกิดอุบัติเหตุ เกิดขึ้นบ่อยกว่าอุบัติเหตุจริงมาก องค์กรจึงมีข้อมูลเชิงลึกและแนวโน้มความเสี่ยงที่จะนำมาวิเคราะห์ได้มากกว่าการรอให้เกิดอุบัติเหตุ
- ใช้ในการจัดลำดับความสำคัญ: ข้อมูลเหตุการณ์เกือบเกิดอุบัติเหตุ ช่วยให้ฝ่ายความปลอดภัยสามารถระบุพื้นที่, เครื่องมือ, หรือกระบวนการที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด เพื่อจัดลำดับความสำคัญในการปรับปรุงระบบและฝึกอบรมได้อย่างแม่นยำ
การรายงานเหตุการณ์เกือบเกิดอุบัติเหตุ จึงไม่ใช่แค่การทำตามขั้นตอน แต่คือหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนผ่านองค์กรจากความปลอดภัยแบบตั้งรับ ไปสู่แบบเชิงรุก และเพื่อทำให้กระบวนการรายงานจุดเสี่ยงเหล่านี้มีประสิทธิภาพสูงสุด องค์กรสามารถนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยได้ เช่น การใช้ ระบบตรวจสอบสภาพการณ์ (ESS) ของ Jorpor Plus ที่ช่วยให้พนักงานหรือหัวหน้างานสามารถ
- รายงานจุดเสี่ยงและสภาพการณ์ที่ไม่ปลอดภัยได้อย่างรวดเร็วผ่านระบบดิจิทัล ทันทีที่พบปัญหา
- ข้อมูลนี้จะแจ้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย (จป.) ทันที เพื่อดำเนินการแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอการเดินเอกสาร
- ระบบยังจัดเก็บข้อมูลย้อนหลัง เพื่อนำไปประกอบการวิเคราะห์เชิงลึกและการจัดทำรายงาน
มีบริการสาธิตระบบฟรี!! และทดลองให้ใช้ฟรีแล้ววันนี้ กดคลิก ได้เลย

ภาพที่ 5 : ระบบตรวจสอบสภาพการณ์ ESS
สนใจทดลองใช้ระบบ
คุณชัญญา เพชรมณีโชติ (แนน)
chunya@factorium.tech
061-5469615
คุณนรีพร ใสสม (ส้มโอ)
Nareeporn@factorium.tech
065-9647198
Website: https://www.jorporplus.com/
Facebook: https://www.facebook.com/JorPorPlus
Line Official : https://lin.ee/dOulra8
Youtube: https://www.youtube.com/playlist?list=PL0b92T8M8rKX1jrpbfpBgozl6Dk3y-nu8



