อันตรายในช่วงหน้าฝน 5 จุดเสี่ยง! ที่ต้องเช็คก่อนทำงานวันที่ฝนตก

อันตรายในช่วงหน้าฝน ในอุตสาหกรรมหรือโรงงานนั้น นอกจากอันตรายจากไฟฟ้าแล้ว ยังมีอันตรายและปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศและความชื้น ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อทั้ง สภาพแวดล้อมการทำงาน และ กระบวนการผลิต

อันตรายในช่วงหน้าฝน จากการลื่นล้มและพลัดตก

อันตรายในช่วงหน้าฝน ที่พบบ่อยที่สุด เนื่องจากความชื้นและน้ำที่เข้ามาในพื้นที่ทำงาน

พื้นเปียกและลื่น: พื้นคอนกรีตหรือกระเบื้องในพื้นที่ผลิต ทางเดิน และลานจอดรถ จะลื่นมากเมื่อมีน้ำจากฝนหรือความชื้นสะสม
พลัดตกจากที่สูง: การทำงานบนหลังคา, นั่งร้าน, หรือแท่นยกต่างๆ จะอันตรายยิ่งขึ้น เนื่องจากผิวสัมผัสเปียกและชื้น รวมถึงทัศนวิสัยที่แย่ลง
การมองเห็นลดลง: ฝนที่ตกหนักทำให้การมองเห็นลดลง ทั้งภายในโรงงานและภายนอก (ขับรถ/โฟล์คลิฟท์) เพิ่มโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากการชนกัน

อันตรายจากการพังทลายและการจัดเก็บ

โครงสร้างอาคารและวิธีการจัดเก็บวัสดุได้รับผลกระทบจากความชื้นและน้ำ

โครงสร้างชำรุด: หลังคารั่ว ผนังที่อ่อนแอ หรือการทรุดตัวของพื้นดินรอบๆ อาคารเนื่องจากความชื้นหรือน้ำท่วมขัง
การจัดเก็บวัสดุ: วัสดุที่ดูดซับน้ำได้ เช่น กระดาษ, กล่อง, หรือวัตถุดิบทางเคมีบางชนิด อาจบวม เสียหาย หรือหนักขึ้นจนทำให้ชั้นวางพังทลายได้
ทางเดินไม่สะดวก: น้ำท่วมขังหรือโคลนในพื้นที่จัดเก็บภายนอก ทำให้การขนย้ายและการเข้าถึงฉุกเฉินทำได้ยาก

อันตรายจากสารเคมีและการจัดการของเสีย

การจัดการสารเคมีและของเสียในช่วงฝนต้องระวังเป็นพิเศษ

การรั่วไหลและการปนเปื้อน: ถังสารเคมีหรือถังบรรจุของเสียอันตรายที่จัดเก็บภายนอกอาคารอาจเกิดการล้มหรือลอยน้ำหากมีน้ำท่วม ทำให้สารเคมีรั่วไหลลงสู่ระบบระบายน้ำหรือพื้นที่อื่นๆ
ปฏิกิริยาเคมี: สารเคมีบางชนิดอาจเกิดปฏิกิริยารุนแรง เมื่อสัมผัสกับน้ำหรือความชื้นสูง
ก๊าซพิษสะสม: ในพื้นที่อับอากาศหรือพื้นที่จำกัด (Confined Spaces) ความชื้นสูงและการระบายอากาศที่แย่ลงอาจทำให้ก๊าซพิษหรือไอระเหยสะสมในระดับอันตราย

อันตรายด้านสุขภาพ

ความชื้นและน้ำที่เข้ามาในพื้นที่ทำงานนำมาซึ่งปัญหาด้านสุขภาพ

เชื้อโรคและสัตว์พาหะ: น้ำท่วมขังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุง หนู และเชื้อโรคต่างๆ เช่น เชื้อฉี่หนู/เลปโตสไปโรซิส
โรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ: ความชื้นสูงและการระบายอากาศที่แย่ลง อาจนำไปสู่การสะสมของเชื้อราและแบคทีเรีย ซึ่งส่งผลต่อพนักงานที่มีอาการภูมิแพ้หรือโรคทางเดินหายใจ

อันตรายต่อเครื่องจักรและอุปกรณ์

ความชื้นสูงและน้ำที่เข้ามาในพื้นที่ทำงานส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสมบูรณ์ของเครื่องมือช่างและอุปกรณ์ไฟฟ้าพกพา

สายไฟและฉนวนชำรุด: สายไฟของเครื่องเจียร สว่าน หรือเครื่องเชื่อม อาจมีการแตกร้าวหรือฉีกขาดอยู่แล้ว เมื่อสัมผัสกับความชื้นหรือน้ำที่พื้น จะทำให้เกิดการ ไฟรั่ว ที่ตัวเครื่องมือหรือสายไฟทันที ซึ่งเสี่ยงต่อการถูก ไฟดูด ขณะใช้งาน
ปลั๊กและเต้ารับเปียก: การเสียบปลั๊กเข้ากับเต้ารับที่เปียกหรือมีความชื้นสูงมาก อาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ที่จุดเชื่อมต่อทันที และนำไปสู่การเกิดประกายไฟหรืออัคคีภัยได้
การกัดกร่อนภายใน: ความชื้นที่แทรกซึมเข้าไปในมอเตอร์หรือวงจรภายในของอุปกรณ์ช่าง อาจทำให้เกิดการกัดกร่อนและความเสียหายต่อระบบไฟฟ้าภายใน ทำให้ประสิทธิภาพลดลง และอาจเกิดการลัดวงจรเมื่อใช้งาน

ภัยเงียบของเครื่องมือสามารถแก้ไขได้ด้วย Tool Inspection ของ Jorpor Plus

Jorpor Plus ช่วยแก้ปัญหาได้ง่ายๆ ตรวจสอบก่อนใช้ ปลอดภัยเสมอ

อันตรายจากเครื่องมือไฟฟ้าส่วนใหญ่เกิดจาก การขาดการตรวจสอบสภาพก่อนใช้งาน โดยเฉพาะเมื่อมีปัจจัยเสี่ยงจากความชื้นเข้ามาเกี่ยวข้อง Tool Inspection ของ Jorpor Plus เข้ามาช่วยจัดการภัยเงียบนี้ได้:

สร้าง Checklist: เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย(จป.) สามารถสร้างหมวดหมู่อุปกรณ์ที่ต้องการตรวจสอบได้ง่ายๆ
การตรวจสอบก่อนใช้งาน: ระบบสามารถให้ผู้ใช้งานทำการตรวจสอบสภาพเครื่องมือ โดยสแกน Qr code ที่ตัวอุปกรณ์หรือกรอกรหัส ผ่านแอปพลิเคชันได้ และทำการตรวจสอบอุปกรณ์ก่อนเริ่มงานในแต่ละครั้ง
หลักฐานการตรวจสอบ: ระบบช่วยบันทึกประวัติการตรวจสอบทั้งหมด ทำให้เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย (จป.) ทราบว่าเครื่องมือชิ้นไหนต้องได้รับการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำในฤดูฝน

การใช้ระบบนี้จึงเป็นการสร้าง “ปราการด่านแรก” ที่สำคัญที่สุดในการป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าดูดและไฟฟ้าลัดวงจรในสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้นในช่วงฤดูฝนได้